TS8 ฮั่น x แกงส้ม ..... เผลอ ..... - TS8 ฮั่น x แกงส้ม ..... เผลอ ..... นิยาย TS8 ฮั่น x แกงส้ม ..... เผลอ ..... : Dek-D.com - Writer

    TS8 ฮั่น x แกงส้ม ..... เผลอ .....

    ฟิก ฮั่นxแกง เรื่องที่ห้าค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะค๊า รักฮั่น รักแกง อย่าลืมโหวตนะจ๊ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    2,017

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    2.01K

    ความคิดเห็น


    21

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 มี.ค. 55 / 20:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ฟิกฟิก ฮั่นxแกง เรื่องที่ห้าค่ะ ออกแนวเรียลๆแบบที่คิดว่าทุกคนชอบ^^  อ่านแล้วลงคอมเม้นท์ไว้เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ซักนิดจะขอบคุณมากๆค่ะ

    อยากเห็นพี่น้องอยู่ด้วยกันนานๆ อย่าลืมโหวตนะคะ *49302 / *49308 จ้า พบกันใหม่สัปดาห์หน้า (จะพยายามนะคะ แฮ่ๆ)

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เผลอ
      ฮั่น x แกงส้ม
      Rate : สบายใจ ทุกวัยทุกเพศ
      Note : หาคลิปเดลี่วันที่ 28 – 30 มี.ค. มาดูประกอบจะได้อารมณ์นะคะ // ฟิกนี้เกิดจากมโนของไรท์เตอร์ล้วนๆค่ะ ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด
       
      ................
       
      วันนี้ผมเครียดจริงๆ ...เครียดที่สุดตั้งแต่เข้าบ้านมาเลยละมั๊ง?

      มัน...บอกไม่ถูก มันเจ็บใจ...มันโกรธตัวเอง ที่ทำไม่ได้อย่างที่คิด...เท่าที่อยากทำ

      น้องๆเค้าไปถึงไหนกันแล้ว? ...มึง...ไอ้ฮั่น... ป่านนี้มึงยังต้องมาร้องเทียบคีย์ควานหาโน๊ตกับครูแหม่มอยู่เลย ...นี่ผมรอดมาได้ถึงรอบ
      5 คนสุดท้ายได้ยังไงวะ?

      เพลงช้าเพลงแรกของเวที...ถ้าแม่ม..จะเละได้ใจขนาดนี้ ....แล้วเพลงที่ร้องคู่กับน้องน้ำชาอีกล่ะ

      นึกสงสารแฟนคลับจับใจ... โมโหตัวเอง ...เบื่อตัวเอง....โทษตัวเอง ...ที่ไม่เก่งเท่าน้องๆ ....ไม่ต้องเท่าหรอก...แค่ครึ่งนึงยังเทียบไม่ได้....

      รู้สึกท้อ...ที่ต้องพยายามมากกว่าคนอื่นหลายร้อยหลายพันเท่า ..ทุกๆวีค

      “พี่จะเครียดทำไมเนี่ย? วุ้ว เอาอีกและ”

      เสียงบ่นของคนใกล้ตัวดังแว่วอยู่ข้างหลัง ....จะมีใครอีก นอกจากมันผู้เดียว...แกงส้ม....

      ผมเงียบ...ไม่พูดอะไร ...หันไปมองน้องนิดๆด้วยหางตา .... มันบ่นไปปลอบไปแบบนี้มานานเกินเดือนแล้ว ผมก็คิดว่าตัวเองก็ชินอยู่นะ ....

      แต่ไหงวันนี้ผม...ไม่ไหวอ่ะ...

      ผมอยากอยู่เงียบๆคนเดียว

      ยิ่งได้ยินแกงส้มมันบ่นความขี้นอยด์ของตัวผมเองแล้ว...แม่ง...

      เกลียดตัวเอง....

      เกลียดคนอื่นยังไม่ขมขื่นใจเท่า...เกลียดตัวเอง...

      รำคาญ....ไม่อยากฟัง...

      “พี่อย่าคิดมากดิ๊ ...ของมันฝึกกันได้”

      มันอาจจะฝึกไม่ได้...ก็ได้.... เอ็งไม่ลองมาเป็นข้าดูบ้าง ไม่รู้หรอก.... แกงส้มคงไม่มีโอกาสได้เห็นสีหน้าเพลียๆของครูแหม่ม...ประมาณว่า สิ้นหวัง น่ะ....

      อารมณ์ผมไม่ปกติจริงๆ พับผ่าเถอะ... ผมเครียด....ผมไม่มีพรสวรรค์เรื่องร้อง ....ผมไม่ได้เก่งแบบน้อง

      “ไหนเอาที่อัดมาฟังดิ๊...เดี๋ยวผมช่วย”

      พอเถอะ....แค่นี้กูก็เกลียดตัวเองจะตายอยู่ละ...

      “พี่ฮั่น?”

      ทำไมเรามันแย่ขนาดนี้วะ? ไม่มีอะไรดีเอาซะเลย...จิตใต้สำนึกฝ่ายต่ำผม โคด อยาก จะตะโกนออกมา ดังๆ
      !

      กูไม่ได้เก่งเท่ามึง ...ไม่ได้มั่นใจมากขนาดมึงนี่
      !!

      ....

      แล้วจู่ๆห้องทั้งห้องก็เงียบสนิทยังกับโดนถอดปลั๊ก.....จนผมเอะใจ

      เฮ่ย ....

      เกิดอะไรขึ้น?

      ผมยืนงงไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้?...รู้แต่วินาทีที่สติกลับคืนมา สิ่งแรกที่ผมทำคือหันหลังขวับกลับไปมองคนๆเดียวที่อยู่ร่วมห้อง

      ภาพที่เห็น...มีเพียงใบหน้าซีดเผือด...และสีหน้าที่บ่งบอกว่า “ช็อคสุดๆ” ของแกงส้ม

      ....เมื่อกี๊ผมแค่คิดไม่ใช่เหรอ?

      ....ผมไม่ได้พูดมันออกไปจริงๆใช่มั๊ย????

      ผมเองก็
      – ช็อค – ไม่ต่างกันเลย ...

      นึกไม่ออก...แม้แต่คำว่าขอโทษ

      ได้แต่มองน้อง...เดินออกไปเงียบๆจนพ้นประตู....

      โอย.... เครียดได้อีก....

      .

      .

      .

      “พี่ฮั่น...พี่ฮั่น...”

      เสียงน้องสมายดังไล่จากบันได้ชั้นล่างมาถึงหน้าห้อง ....ผมยังนอนหลับตาอยู่บนเตียง

      “พี่ฮั่นหลับเหรอ? พี่แฟรงค์มาแล้ว”

      ไม่รู้เลยว่ากี่โมงกี่ยามกันแล้ว... ตั้งแต่ผมเผลอระเบิดอารมณ์ใส่แกงส้ม จนมันเดินเสียใจออกจากห้อง...ผมไม่ได้ลงไปซ้อมกับน้องๆข้างล่าง

      จริงๆคือ ...ผมไม่กล้าลงไป

      กลัว...ที่จะต้องเจอหน้า ...รู้สึกผิด...เครียด ...เบื่อ...สับสนในฟีลไปหมด

      วันนี้วันอังคาร ...พี่แฟรงค์ต้องมาประกาศผลคะแนนกลางสัปดาห์ ...คงเลี่ยงไม่ได้แล้วหละ ...พี่แฟรงค์มาถึงแล้ว...ไม่อยากลงก็ต้องลง...ผมลุกขึ้นจากเตียง เดินตามน้องสาวตัวน้อยลงมาเงียบๆ ...หวังว่าหน้าเครียดๆป่วยๆ(ทางจิต)ของผมวันนี้จะไม่เด่นเด้งชัดเจนให้มันมากนัก ไม่อยากให้ใครรู้...ไม่อยากให้ใครถาม.... แค่นี้ผมก็แทบจะรับไม่ไหวอยู่แล้ว...

      .

      .

      .

      เป็นไปตามคาด ...ก็แค่รอฟังว่าใครจะเป็นอันดับสุดท้ายคู่กับผม ผมเดินไปแปะมือกับน้องโดมโดยมีแกงส้มนั่งอยู่ข้างๆโดม ...ผมไม่กล้าสบตา ตลอดเวลาที่ฟังการประกาศผล ผมมองเฉียงไปที่พี่แฟรงค์ตลอด ไม่กล้ามองตรงหน้า ...วันนี้เราไม่ได้นั่งใกล้กัน...แต่นั่งตรงข้ามกันแบบ...เห็นหน้ากันจะจะ

      เนียนๆคุยกับคนโน้นคนนี้สองสามคำ ...ผม...เหมือนไม่รู้จะวางตัวเองไว้ตรงไหน...ก็เลยเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกระดาษเนื้อเพลงและเครื่องเล่น
      MP3  ....รู้สึกหวิวๆ...มันปั่นป่วนในท้อง

      เป็นการประกาศผลคะแนนกลางสัปดาห์ครั้งสุดท้ายที่เงียบเหงามาก..ทุกคนต่างแยกย้ายสลายตัวกันไปซ้อมเพลงใครเพลงมันอย่างรวดเร็ว...ไม่มีเสียงแซวกันไปมา... ไม่มีการนั่งนอยด์ด้วยกันเป็นเวลานานๆ ...

      ผมนั่งเหงาๆที่โต๊ะเงียบๆ ...โดม นั่งตรงข้ามผม แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก อาจเพราะจับอารมณ์หน่วงของผมได้ รึกำลังอินกับเพลงตัวเอง... แคนก็ร้องของตัวเองบ้าง..ดูแลน้องสมายบ้าง (ก็รับปากใครบางคนไว้แล้ว)

      ส่วนแกงส้ม...เสียงเปียโนจากมุมห้องฝั่งตรงข้าม...คือสิ่งเดียวที่ผมพอจะใช้บอกตำแหน่งตัวมันได้ .... เพราะผมไม่กล้าหันไปมอง

      นับจากตอนนั้น ....เราไม่ได้คุยกันอีกเลย ....

      ทำให้คืนนี้ ...หลังประกาศผล...

      ...ไม่มีคำปลอบใจ..จากเจ้าชายคิดบวก ...อย่างแกงส้ม

      ...ไม่มีใครคอยเดินตามเป็นลูกเจี๊ยบ ..พูดโน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย ยิงมุขขำบ้าง แป้กบ้าง ...ให้ผมเลิกคิดมาก

      ผมรู้ว่าหน้าตัวเองตอนนี้คงดูยับเยินที่สุดแล้ว.... ไม่ใช่เพราะผลของคะแนนรั้งท้าย...แต่ผมกำลังต่อสู้กับความรู้สึก...ผิด...เศร้า. .เหงา....เครียด .....เป็นห่วง ... หน่วง....มึน...อึน... และอื่นๆอีกมากมาย ที่หาคำอธิบายได้บ้าง...ไม่ได้บ้าง....ของตัวเอง

      ถ้าเดินไปขอโทษน้องตอนนี้ ...จะยังทันมั๊ยนะ?

      ผมคิดซ้ำไปซ้ำมาในหัว...ทั้งๆที่ตาก็จ้องเอาๆ ...อยู่กับกระดาษเนื้อเพลงในมือ

      .

      .

      .

      ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก... หรี่ตามองดูนาฬิกาที่ปลายเตียง ....อีกสิบนาทีตีสอง

      พออาบน้ำแล้วก็ไม่รู้เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไร ... คงเพราะเครียดมาก ..เครียดจนเหนื่อย..

      สิ่งสุดท้ายที่ติดอยู่ในใจก่อนหลับไปคือ ... ผมหลับโดยที่แกงส้มยังไม่ขึ้นมาจากชั้นล่าง

      งัวเงียหันไปมองข้างๆตัว.... เตียงอีกครึ่งนึงก็ยังคงว่างเปล่า

      ผมตกใจนิดๆ ...ลุกพรวดขึ้นนั่งมองไปรอบๆห้อง... เห็นเพียงโดมกับแคนนอนกรนสลับกันเป็นจังหวะ... แล้วมันหายไปไหนของมัน? จะตีสองแล้ว ... อย่าบอกนะว่าจนป่านนี้ก็ยังไม่ขึ้นมา?...

      ความรู้สึกเป็นห่วง....จากที่มีมาแต่เดิมตลอดค่ำ ...พุ่งขึ้นทะลุเพดาน ... นี่มันไปไหน? อาบน้ำอาบท่ารึยัง? แล้วนอนตรงไหน อะไร ยังไงวะนั่น?

      ...นี่น้องมันโกรธผมขนาดนี้เชียวเหรอ? ขนาดนอนเตียงเดียวกันไม่ลง?

      ก็สมควรแล้ว ถ้ามันจะโกรธ.....ถ้ามันจะเสียใจ.... ผมแอบคิดเศร้าๆ....ถ้าไม่นับคลาสแอ็คติ้งวันนั้น กับตอนแหย่กันไปหัวเราะกันไป...ผมไม่เคยขึ้นเสียง..รึพูดกูๆมึงๆใส่แกงส้มด้วยอารมณ์รุนแรงแบบนี้เลย

      ผมเครียด...ผมเกลียดตัวเอง ...แต่ดันไปพาลใส่น้อง

      ผมทำลายความหวังดีของคนที่ผมก็รู้อยู่แก่ใจว่า หวังดี กับผมที่สุด... ด้วยความจริงใจ

      ผมลุกขึ้น ค่อยๆเปิดประตูออกไปเงียบๆ ...

      ความรู้สึกนี้กลับมาอีกแล้ว...มันหวิวๆในท้อง ...ยังกับจะขาดใจ

      .

      .

      .

      แกงส้มนอนยาวเหยียดอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ..ไฟทุกดวงยังเปิดสว่าง...พี่คนที่ดูแลพวกเราน่าจะกลับไปก่อน ไม่งั้นเค้าคงไม่ปล่อยมันนอนสภาพนี้แน่

      ผมค่อยๆย่องเงียบกริบมายืนอยู่ข้างๆ ...ท่าทางคงเผลอหลับไปทั้งยังงั้น ..หูฟังยังเสียบคาอยู่...แว่นตาก็ไม่ได้ถอด

      มองผ่านแว่นเข้าไปเห็นแผงขนตายาวๆ ... หัวใจผมเต้นเร็วขึ้น...เร็วขึ้น...เหมือนตัวเองกำลังทำอะไรผิด...ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำ

      แล้วไงต่อ? ปลุกดีมั๊ย? ประโยคแรกที่ผมควรจะพูดกับน้อง ...มันไม่น่าจะใช่
      – เฮ้ย แกง ตื่น –

      ผมมีคำอื่น...ที่อยากจะพูด...

      โดยไม่ได้คิด... ผมโน้มตัวลงค่อยๆถอดแว่นตาของแกงส้มออก..เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้... ผมอมยิ้ม...แว่นอะไรวะ...ถอดจากหน้าปั๊บ... ดูหล่อขึ้นอีกแปดสิบสองเปอร์เซ็นต์ ...ผมเคยแซวให้มันเปลี่ยนไปใส่คอนแท็กเลนส์ซะเพื่อรักษาน้ำใจแฟนคลับ

      รอยบุ๋มที่ร่องจมูกสองข้าง...ยิ่งทำให้หน้าเล็กๆเรียวๆนั้นดูเด็กลงไปอีกหลายเท่า

      เด็กน้อย...

      นี่สินะ...ตัวจริงของเด็กที่พยายามจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่...

      เพื่อให้เข้าใกล้คนเป็นพี่อย่างผมได้มากขึ้นอีกนิด...

      แต่จริงๆแล้ว ... น้องก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี ... เด็กกว่าผมหลายปี...

      นึกถึงหน้ามันตอนนั้น ...ผมคงทำให้แกงเสียใจน่าดู ...จากอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง ...

      “พี่ขอโทษ”

      คำพูดแผ่วๆ ออกมาจากปาก...เบาหวิว ... ออกมาจากใจ...และไม่ได้หวังให้น้องได้ยิน ...

      แค่อยากพูดออกไปเป็นคำแรก...

      “.....พี่ฮั่น....”

      ผมสะดุ้งสุดตัวยังกับเห็นผี
      ! รู้สึกอายุสั้นไปอีกสามวันด้วยความตกใจ

      มันไม่ได้หลับเหรอวะ? ตายๆๆๆๆๆ (วุ่นวาย)

      ไอ้แกงมันงัวเงียลุกขึ้นนั่ง...ตายังลืมไม่เต็มตา....ผมยุ่งแบบเด็กเพิ่งตื่น ...ปากก็บ่นงึมงำพอจับใจความได้ว่า

      “อะไรว้า...รอทั้งเย็นไม่เห็นจะพูด”

      “ก็...พี่...”

      ไม่รู้จะว่ายังไง เพราะไม่ได้เตรียมใจจะมาคุยกะมันตอนตีสองแบบนี้.... ผมเดินลี่ยงมานั่งที่โซฟาอีกตัวใกล้ๆ ...

      “ตื่นอยู่ก็ไม่บอก...” ....ผมบ่นมั่ง

      “เอ้า...ก็พี่ถอดแว่นผมทำไม? คนกะลังหลับเพลินๆ”

      อยู่ๆผมก็รู้สึกร้อนวูบที่หน้า... เดี๋ยวนี้ชอบทำอะไรแบบไม่รู้ตัว... ผมดึงเอาหมอนสีชมพูใบใหญ่มากอดแก้เขิน

      “แล้ว..แล้วทำไมไม่ขึ้นไปนอนข้างบน...”

      “อะไร...เป็นห่วงรึไง?”

      แกงส้มหันมามองผมยิ้มๆ ทำเสียงล้อแบบที่มันชอบทำ ...

      “เออ.....”

      คำเดียวสั้นๆ เล่นเอาไอ้น้องชายสะอึก ... มันหลบตาผมไปมองทางอื่น แล้วก็บ่นพึมพำ

      “พี่เป็นไรมากมั๊ยเนี่ย?”

      “เป็น ...เยอะเลย”

      ผมพูดตามความรู้สึกทุกคำ ... ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ผมจะปิดบัง โดยเฉพาะกับแกงส้ม น้องที่ผมสนิทที่สุด

      “ขอโทษจริงๆ ตอนนั้น...พี่เครียด...”

      “เครียดเรื่อง?”

      น้ำเสียงที่เจือความห่วงใย บวกกับแววตาที่หันกลับมามองผมตรงๆ แสดงถึงความใส่ใจและพร้อมจะรับฟัง...

      ผมทำร้ายคนที่ดีกับผมขนาดนี้ไปได้ยังไงนะ? อยากจะด่าตัวเองซ้ำๆ

      “พี่ร้องไม่ได้.. ทำอะไรก็ไม่ได้ ...อะไรก็ไม่ดีซักอย่าง....”

      แล้วมันก็พรั่งพรูออกมา... ความอัดอั้นตันใจ ความทุกข์ ความรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ ...ที่ผมถนัดที่จะเก็บมันเอาไว้...แต่กับแกงส้ม...กับคนคนนี้...ผมยินดีจะเอามันออกมา ...ระบายมันออกมา

      เราคุยกันพักใหญ่ ทั้งปลอบ ทั้งบ่น ทั้งให้กำลังใจแก่กัน....

      ผมไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกนี้มานานแล้ว....สบายใจที่สุด

      “ผมว่าเพราะพี่ไม่เคยประกวดร้องเพลงมาก่อน นี่แหละประเด็น”

      แกงส้มสรุปยิ้มๆ

      “ผมประกวดมาเป็นร้อย... พี่รู้มั๊ย...ผมชนะไม่ถึงสิบด้วยซ้ำ หะหะ เห็นผมเฉยๆนี่ไม่ใช่เซลฟ์นะ...ภูมิต้านทานมันเยอะ”

      ผมยิ้มตอบ ฟังมันเล่าไปเรื่อยๆ

      “เท่าที่เคยเห็นนะ...คนไม่มีพื้นฐานการร้องมาก่อน พี่เก่งสุดละ...พี่ร้องดีขึ้นทุกวีค...ไม่ต้องงงหรอกว่าทำไมถึงมาได้ไกลตั้งขนาดนี้”

      “พี่ยังมีบุญอยู่ละมั๊ง” ผมยิ้มฝืดๆที่มุมปาก ไม่มั่นใจพอที่จะยอมรับว่าเป็นเพราะความสามารถของตัวเองจริงๆ

      “ไม่ใช่หรอก...คนเค้าคงเห็นเหมือนที่ผมเห็นไง ความพยายาม...นิสัยใจคออะไรงี้ ..ทุกคน...รักพี่ไง...”

      รัก...งั้นเหรอ?

      รัก.... เพราะความรักใช่มั๊ย? คนที่มาจากครอบครัวที่แตกสลายอย่างผมมีสิทธิ์ที่จะสงสัย

      “ทุกคนนี่ ...ใครมั่ง?” ผมเงยหน้าขึ้นถาม ...รู้สึกอยากเห็นสีหน้าคนตอบ

      “ก็ ...ทุกคนไง ...แม่พี่ พ่อพี่ ญาติ แฟนคลับ...แล้วก็...เอ้อ....ก็น้องๆในบ้านนี่ไง”

      น้องชายตอบตะกุกตะกักช่วงท้าย ...

      “น้องๆนี่...รวมแกงส้มด้วยรึเปล่า?”

      ผมยิ้มแยกเขี้ยว อยากรู้ว่ามันจะว่ายังไง ...

      “คงไม่มั๊ง”

      แกงส้มมองตาผมตรงๆ...จนผมตกใจ...

      มันเหมือน ... เอาเป็นว่ามันเข้าใจ แม้จะพูดอะไรที่ตรงข้าม...

      เขินว่ะ ... ยอมรับเลย ณ จุดนี้ ถามเค้าเองแท้ๆ ... มึงนี่นะ
      - -‘ ...เป็นอันว่าแผนแกล้งน้องรอบดึกก็มีอันพับไป

      “นอนเหอะพี่ ...ผมง่วง”

      ไอ้แกงเริ่มหาว ... ผมเองก็ตาจะปิดอยู่แล้ว เราลุกขึ้นเดินแทบจะพร้อมกัน แกงส้มเลี้ยวไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม ...ผมเดินตามไปติดๆ

      นานๆผมจะได้ยืนอยู่ข้างหลังมันบ้าง ... ผมด้านหลังตั้งๆชี้ๆเพราะนอนทับ... กับท้ายทอยขาวๆ

      อืมมม...

      แกงส้มปิดตู้เย็นแล้วกลับหลังหันเพื่อจะเดินออกมา แต่ผมยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ปิดทางออกซะสนิท ด้วยส่วนสูง
      180 เซ็นทั้งคู่... หน้าเราสองคนแทบจะชนกัน น้องชายผงะไปข้างหลังเล็กน้อย ทำท่างงๆ

      “เอ๊า..พี่ไม่ขึ้นไปละ?”

      “เดี๋ยวดิ...”

      “อะไรอีกล่ะทีนี้?”

      “เปล่า”

      ผมตอบ ยิ้มให้เด็กหนวดที่อยู่ตรงหน้าซะกว้าง ยืนอยู่อีกอึดใจนึงก่อนจะหลบทางให้แกงส้มเดินออกไปก่อน... ผมค่อยเดินตามหลังน้องขึ้นบันไดไปช้าๆ

      จะให้พูดยังไงล่ะ? จะให้ผมพูดออกไปเลยมั๊ยว่า...ขอพี่อยู่ใกล้ๆอีกแป๊บนึง

      คราวนี้อย่าเผลอเชียวนะ...

       

      END

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×